ยางรุ่นใหม่ จากมิชลิน Primacy 4  ด้วยที่สุดของความนุ่มเงียบ

ยาง MICHELIN
Primacy4

●   มิชลิน ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก เปิดตัวยางรุ่นใหม่ มิชลิน ไพรมาซี่ 4 (MICHELIN Primacy 4) ผลิตภัณฑ์ยางล่าสุดในตระกูลไพรมาซี่ พัฒนาภายใต้แนวคิด “อายุยางเปลี่ยน ความมั่นใจไม่เคยเปลี่ยน” (1) หรือ Safe When New, Safe When Worn สื่อถึงคุณสมบัติเด่นของยางรุ่นนี้ ที่คงสมรรถนะและให้ความปลอดภัยตั้งแต่ยางใหม่ จนถึงตอนที่ดอกยางใกล้หมด (2) อีกทั้งยางรุ่นนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของยางนุ่มเงียบ (3) ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายอย่างแท้จริงด้วยการผสมผสาน 2 เทคโนโลยีล่าสุด เอกสิทธิ์เฉพาะมิชลินที่ใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี

EverGrip™ Technology

●   ประกอบด้วย ร่องรีดน้ำแบบใหม่ ออกแบบให้ร่องดอกยางเป็นทรงเหลี่ยมมากขึ้นและกว้างกว่าเดิม เมื่อเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีพื้นที่ในการรีดน้ำเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ แม้ผ่านการใช้งานไปแล้วจนดอกยางใกล้หมด และแม้ร่องรีดน้ำจะกว้างขึ้น แต่หน้ายางก็มีพื้นที่สัมผัสมากขึ้นด้วย มาพร้อมสูตรผสมเนื้อยางสมรรถนะสูงนวัตกรรมล่าสุด เพิ่ม Active Bonding Element ทำให้โมเลกุลของซิลิก้ากับโพลิเมอร์ยึดเกาะกันได้ดีและสม่ำเสมอกว่าสูตรเนื้อยางทั่วไป ส่งผลให้เนื้อยางมีความยืดหยุ่นกว่า และเกาะบนถนนเปียกได้ดีกว่า

Silent Rib Technology

●   รุ่นที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าไปภายในห้องโดยสาร ด้วยแถบเนื้อยางเสริมระหว่างบล็อกดอกยางแบบเต็มหน้ายาง (Inter-Locking Bands) ไม่เพียงช่วยลดเสียงที่เกิดจากการบีบอัดอากาศภายในช่องว่างของบล็อกดอกยาง แต่ยังช่วยให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น
●   เพื่อพิสูจน์ว่า มิชลิน ไพรมาซี่ 4 มีประสิทธิภาพตรงตามที่ออกแบบไว้ มิชลินจึงมอบหมายให้ บริษัท ทียูวี ไรน์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการทดสอบยาง มิชลิน ไพรมาซี่ 4 บนถนนเปียก เปรียบเทียบกับยางชั้นนำแบรนด์อื่น ทั้งยางใหม่และยางใกล้หมดดอก (2) ผลลัพธ์ที่ได้น่าประทับใจมาก นั่นคือ:

–   ยางใหม่ด้วยกัน : มิชลิน ไพรมาซี่ 4 มีระยะเบรกสั้นกว่ายางแบรนด์อื่น 2.5 เมตร (4) 
–   ยางใกล้หมดดอก : มิชลิน ไพรมาซี่ 4 มีระยะเบรกสั้นกว่ายางแบรนด์อื่น 5.1 เมตร (5) 
–   เมื่อเทียบกับยางใหม่ของแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ มิชลิน ไพรมาซี่ 4 ที่ใกล้หมดดอก มีระยะเบรกสั้นกว่ายางใหม่ของแบรนด์อื่นถึง 1.8 เมตร หรืออาจกล่าวได้ว่า มิชลิน ไพรมาซี่ 4 ที่ใกล้หมดดอก ให้ความปลอดภัยมากกว่ายางใหม่บางรุ่นของแบรนด์อื่น


การทดสอบระยะเบรกบนถนนเปียก

●   เริ่มด้วยการทดสอบระยะเบรกบนถนนเปียกจาก 80-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยยางมิชลิน ไพรมาซี่ 4 เปรียบเทียบกับยางอื่นอีก 2 แบรนด์ ใช้ยาง 2 ชุด คือ ยางใหม่ และยางที่ถูกปั่นเอาดอกยางออกหรือ Buffing เสมือนยางที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจนดอกยางใกล้หมด จากยางใหม่ที่ดอกยางสูงประมาณ 8 มิลลิเมตร ถูกปั่นออกให้ดอกยางเหลือ 2 มิลลิเมตร ส่วนสะพานยางที่อยู่ในร่องยาง มีความสูงประมาณ 1.8 มิลลิเมตร เมื่อดอกยางสึกเสมอกับสะพานยางก็ควรเปลี่ยนยางใหม่

●   เพื่อนสื่อมวลชนและตัวผมเองสงสัยเหมือนกันว่า ในการใช้งานจริงกว่าดอกยางจะสึกเหลือ 2 มิลลิเมตร ต้องใช้เวลาหลายปี สภาพเนื้อยางและโครงสร้างต่างๆ ของยางย่อมเสื่อมลงมากกว่าการนำยางใหม่มาปั่นดอกยางออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของมิชลินก็ให้คำตอบว่า ประสิทธิภาพการรีดน้ำขึ้นอยู่กับลักษณะของดอกยางเป็นหลัก เนื้อยางมีผลไม่มากนัก และในอนาคตจะมีการทดสอบเปรียบเทียบคุณสมบัติของเนื้อยางหลังจากยางผ่านการใช้งานแล้ว โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการทดสอบแบบนี้ใช้อ้างอิงได้ เพราะยางแบรนด์อื่นที่ใช้ในการทดสอบเปรียบเทียบ ก็เป็นการนำยางใหม่มาปั่นดอกยางออกเช่นเดียวกัน

●   แนวคิดของการทดสอบสถานีนี้คือ ลักษณะของร่องยางของ มิชลิน ไพรมาซี่ 4 ที่ออกแบบเผื่อไว้เมื่อดอกยางสึกเกือบถึงสะพานยาง ทำให้ยังคงประสิทธิภาพการรีดน้ำได้ดี แม้ดอกยางใกล้หมดนั่นเอง

●   ยางทุกเส้นถูกติดตั้งในล้อแม็กลายเดียวกันเพื่อตัดตัวแปรเรื่องน้ำหนักของล้อ และใช้รถทดสอบคันเดียวกันเพื่อตัดตัวแปรเรื่องสภาพรถ ล้อและยางทุกชุดที่เตรียมไว้เปลี่ยน ก่อนการทดสอบได้ทำการใส่กับตัวรถเพื่อตั้งศูนย์ถ่วงล้อและมาร์คไว้ เพื่อเวลาสลับยางจะได้ใส่ในตำแหน่งเดิม ตัดตัวแปรเรื่องศูนย์ล้อ และที่สำคัญคือ ผู้ทดสอบ รับหน้าที่โดยนักแข่งรถทั้งทางเรียบและทางฝุ่นอย่าง มานะ พรศิริเชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะเบรกได้แรงสม่ำเสมอกันทุกครั้ง ซึ่งมีผลมากต่อระยะเบรก
●   อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในการทดสอบคือ Performanc Box วัดความเร็วและระยะทางโดยใช้สัญญาณดาวเทียม มีความแม่นยำสูง ตั้งที่เครื่องไว้ว่าให้เริ่มวัดระยะที่ความเร็ว 80-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ความเร็วก่อนเบรกจะเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปนิดหน่อยก็ไม่มีผลอะไร แต่เท่าที่ดูผ่านจอมอนิเตอร์ที่มีการถ่ายทอดภาพหน้าจอ Performance Box จากในรถมาให้ดู ผู้ขับทดสอบก็สามารถรักษาความเร็วก่อนเบรกได้ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแทบทุกครั้ง

●   สถานีทดสอบมีการฉีดน้ำให้พื้นเปียกชุ่มอย่างสม่ำเสมอทุกรอบ เริ่มต้นด้วย มิชลิน ไพรมาซี่ 4 ยางใหม่ ทดสอบ 3 รอบแล้วเปลี่ยนเป็นยางที่ดอกยางเหลือ 2 มิลลิเมตร 3 รอบ เปลี่ยนยางจนครบ 3 ยี่ห้อแล้วสรุปผลการทดสอบ

ทดสอบความสั่นสะเทือน

●   ย้ายสถานที่ทดสอบแต่ยังคงอยู่ภายในสวนนงนุช ซึ่งมีเนื้อที่เฟสแรกกว่า 1,700 ไร่ เป็นลานจอดรถบัสที่มีความลาดเอียงเล็กน้อย ขับรถกันไปเป็นกลุ่มโดยมี Instructor นั่งไปด้วย มีรถฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ รอบแรกได้ลองรถที่ใส่ยางแบรนด์อื่น ขับไปจอดบนเนินจากนั้นใส่เกียร์ว่างแล้วปล่อยให้รถไหลผ่านเชือกที่วางขวางถนนไว้ ฟังเสียงและความสั่นสะเทือน จากนั้นจึงสลับมาขับรถรุ่นเดียวกันที่ใส่ยางมิชลิน ไพรมาซี่ 4 การฟังเสียงและจับความรู้สึกเรื่องความสั่นสะเทือน ทำได้ยาก การทดสอบจึงติดตั้งเครื่องมือวัดแรงสั่นสะเทือน เป็นสมาร์ทโฟนที่มีแอพพลิเคชั่น

ทดสอบการยืดเกาะถนน

●   มิชลิน ไพรมาซี่ 4 แม้อยู่ในกลุ่มยางคอมฟอร์ทเน้นความนุ่มเงียบและการรีดน้ำ แต่ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องประสิทธิภาพการยืดเกาะบนถนนแห้ง ด้วยการออกแบบหน้ายางให้มีพื้นที่หน้าสัมผัสหรือ Contact Patch ที่มากกว่ารุ่นเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับไพรมาซี่ 3 ในสภาพยางใหม่ด้วยกัน ระยะเบรกบนถนนแห้งที่ความเร็ว 80-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไพรมาซี่ 4 จะสั้นกว่า 0.65 เมตร และเมื่อยางสึกหรอไปแล้ว ระยะเบรกของไพรมาซี่ 4 ก็ยังคงสั้นกว่า 0.90 เมตร (ทดสอบโดย TUV Rheinland) อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ มิชลิน ไพรมาซี่ 4 มีการยึดเกาะถนนแห้งที่ดี คือ การออกแบบให้แรงกดที่หน้าสัมผัสยางมีการกระจายตัวอย่างสมดุล ช่วยให้พวงมาลัยตอบสนองได้อย่างแม่นยำและต่อเนื่อง

●   พิสูจน์สมรรถนะการยึดเกาะถนนบนทางแห้งด้วยกิจกรรมสนุกๆ ขับแบบยิมคาน่า ด้วยเลย์เอาท์เส้นทางง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อให้ผู้ขับมีสมาธิกับการควบคุมรถมากกว่าต้องจดจำเส้นทาง รอบสาธิต มานะ พรศิริเชิด ทำเวลาได้ประมาณ 25 วินาทีนิดๆ ส่วนสื่อมวลชนที่ทำเวลาดีที่สุดได้ประมาณ 26 วินาที การขับยิมคาน่า ไม่ได้เน้นความเร็วแบบสุดๆ แต่ต้องขับด้วยความเร็วที่พอดี ไม่ช้าเกินไปและไม่เร็วเกินไปจนรถเสียการควบคุม

ขายยาง MICHELIN ราคาถูก , YOKOHAMA, BRIDGESTONE, CONTINENTAL, TOYO, KUMHO, DUNLOP, OTANI, MAXXIS, NEXXEN, GT RADIAL
สำหรับร้านยางทั่วไป  พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ!!
จัดส่งทุกวัน จัดส่งด่วน จัดส่งไว ทันใจแน่นอน!!  โทร. 02-061-5265
KT AUTOTIRE ร้านยางรถยนต์ ย่านถนน สวนหลวง ร.9, ประเวศ, เฉลิมพระเกียรติ ร.9, บางนา, ศรีนครินทร์, ซีคอน
ศูนย์บริการ ยางรถยนต์ ล้อแม๊กซ์ ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมั

ข้อมูลที่เอามาลงนั้นเป็นข้อมูลเฉพาะทางไม่ได้เพิ่มเติมหรือดัดแปลงเนื้อหาแต่อย่างใดจึงให้สอดคล้องกับทางผู้ผลิต
เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับลูกค้าที่สนใจยางรถยนต์ Michelin

แหล่งที่มา https://www.michelin.co.th


ข้อมูลของยาง
MICHELIN Primacy 4

195/60 R15 88V
195/65 R15 91V

205/55 R16 91W
215/55 R16 97W XL
225/55 R16 99Y XL
205/60 R16 92V
215/60 R16 99V XL
225/60 R16 98W
235/60 R16 100V
205/65 R16 95V

215/45 R17 91W XL
225/45 R17 94W XL
245/45 R17 99W XL
205/50 R17 93W XL
215/50 R17 95W XL
225/50 R17 98W XL
205/55 R17 95V XL
215/55 R17 94V
225/55 R17 101W XL
235/55 R17 103W XL
215/60 R17 96V
225/60 R17 103V XL

215/45 R18 93W XL
225/45 R18 95W XL
235/45 R18 98Y XL
245/45 R18 100W XL
255/45 R18 99W
225/50 R18 99W XL
235/50 R18 97W
245/50 R18 100W

245/45 R19 102W XL